ทองคำทรงตัวจากปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์กระทบค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
ประเด็นสำคัญ:
- ทองคำ พุ่งแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 2,431.29 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อวันศุกร์
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ใกล้เคียงกับระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน
- ราคาตลาดมีโอกาส 68% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน – CME
ราคาทองคำ ทรงตัวในวันพุธ หลังจากพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยซึ่งได้รับแรงหนุนจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลาง ช่วยชดเชยแรงกดดันบางส่วนจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่สูงขึ้นและอัตราผลตอบแทนกระทรวงการคลัง
ราคาทองคำ gold spot อยู่ที่ 2,381.68 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 2,431.29 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ ด้านโกลด์ฟิวเจอร์สของสหรัฐฯ ลดลง 0.4% อยู่ที่ 2,397.70 ดอลลาร์
ดัชนีดอลลาร์ (DXY) ทรงตัวใกล้จุดสูงสุดในรอบห้าเดือน ทำให้การลงทุนทองคำแท่งน่าสนใจน้อยลง สำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น ๆ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี อยู่ที่ 4.6591% ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนในช่วงก่อนหน้า
“ราคาทองคำแสดงให้เห็นความยืดหยุ่นเมื่อเผชิญกับอัตราผลตอบแทนของกระทรวงการคลังที่สูงขึ้น และค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น ขณะเดียวกันก็ได้รับแรงสนับสนุนจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กำลังก่อตัวขึ้น โดยทองคำยังคงได้เปรียบ ในประเด็นการตอบโต้ของอิสราเอลต่อการโจมตีของอิหร่าน” Yeap Jun Rong นักยุทธศาสตร์การตลาด IG กล่าว
ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น อาจปูทางให้ราคาทองคำกลับมาทดสอบระดับสูงสุดตลอดกาลได้ Jun Rong กล่าว
เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ระดับสูง ซึ่งรวมถึงประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ เจอโรม พาวเวลล์ หลีกเลี่ยงที่จะให้ความเห็น ว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่อใด โดยกล่าวว่า นโยบายการเงินจำเป็นต้องถูกจำกัดให้นานขึ้น แทน
ข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยสถาบันการเงินทั่วโลกหลายแห่งได้ให้ความคาดหวังต่อธนาคารกลางสหรัฐฯ ว่าจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน จากเดิมเดือนมิถุนายน
ตลาดกำลังคาดการณ์ โดยมีโอกาส 68% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือน กันยายน ตามข้อมูลจาก CME FedWatch Tool
อัตราดอกเบี้ยที่ลดลง จะเพิ่มความน่าสนใจในการถือครองทองคำแท่งที่ไม่ให้ผลตอบแทน
ที่มา: ทอมสันรอยเตอร์
Comments are closed.